ข่าวประชาสัมพันธ์

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ เผยความคืบหน้าก่อนเปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นำยอดแหลมสีทอง สัญลักษณ์แห่งความทรงจำของ ‘ดุสิตธานี’ ขึ้นติดตั้งบนชั้นสูงสุด

พร้อมสร้างห้องนิทรรศการเก็บเรื่องราวประวัติความเป็นมา เพื่อต้อนรับนักเดินทางจากทุกมุมโลก

กรุงเทพฯ 6 ธันวาคม 2566 : กลุ่มดุสิตธานี ประกาศความคืบหน้าของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ โดยล่าสุดได้นำยอดแหลมสีทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เดิม ขึ้นติดตั้งบนชั้นสูงสุดของโครงสร้างใหม่ ชูความเป็นไทยบนมาตรฐานสากล เหมือนกับที่ “ดุสิตธานี” เคยสร้างการจดจำระดับโลกในฐานะสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ มาเกือบ 50 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 – 2562

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่นี้ นับว่า เป็นโรงแรมเรือธงที่สำคัญที่สุดของเครือดุสิตธานี และมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังปี 2567 โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (Mixed-Use) ภายใต้ชื่อ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่มีมูลค่า 46,000 ล้านบาท ซึ่งนอกเหนือจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แล้ว โครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ยังประกอบไปด้วย อาคารที่พักระดับลักซ์ชูรีภายใต้แบรนด์ ‘ดุสิต เรสซิเดนเซส’ และ ‘ดุสิต พาร์คไซด์’ รวมถึงอาคารสำนักงานเกรดพรีเมี่ยม ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ และ Rooftop Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าใจกลางกรุงที่มีขนาด 11,200 ตารางเมตร ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2568

สำหรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ เป็นอาคารสูงขนาด 39 ชั้นที่ประกอบด้วย ห้องพักและห้องสวีทรวม 257 ห้อง ที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดยทุกห้องจะสามารถมองเห็นความเขียวชะอุ่มของสวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ นอกจากนี้ โรงแรมแห่งนี้ยังนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับพรีเมี่ยม อาทิ ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ห้องอาหารหลากหลายรูปแบบ และศูนย์เวลเนสสำหรับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยโรงแรมได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อยกระดับจุดยืนของกลุ่มดุสิตธานีบนเวทีโลก ที่จะสร้างนิยามแห่งการพักผ่อนรูปแบบใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ยังผสานองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์เดิม ซึ่งรวมถึงยอดแหลมสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เดิม และเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาคารใหม่บนยอดสูงสุด โดยยอดเสาเก่า จะถูกวางครอบด้วยยอดเสาทองคำใหม่ที่ใหญ่และสวยงามกว่าเดิม เพื่อรอคอยที่จะต้อนรับแขก ผู้เยี่ยมชม และนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง

นอกจากนี้ ตรงฐานของยอดเสา จะมีห้องนิทรรศการ ที่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมา และสิ่งของที่เป็นความทรงจำต่างๆ จากโรงแรมดุสิตธานีต้นฉบับ โดยจุดนี้ จะเป็นจุดชมวิว และเช็คอิน เพื่อถ่ายภาพกับสัญลักษณ์ของโรงแรมได้อย่างน่าประทับใจ

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ นำยอดแหลมสีทอง สัญลักษณ์แห่งความทรงจำของ ‘ดุสิตธานี’ ขึ้นติดตั้งบนชั้นสูงสุด โดยมีผู้บริหารของกลุ่มดุสิตธานีร่วมถ่ายภาพวาระพิเศษนี้ (รูปภาพเรียงจากซ้าย) – มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มดุสิตธานี; นายศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม กลุ่มดุสิตธานี; นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม กลุ่มดุสิตธานี; นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการ กลุ่มดุสิตธานี; นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด; นางณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ รองประธานฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และการออกแบบ กลุ่มดุสิตธานี; มร. เอเดรียน รูดิน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่

ยอดแหลมสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เดิม ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาคารใหม่บนยอดสูงสุด โดยยอดเสาเก่าจะถูกวางครอบด้วยยอดเสาทองคำใหม่ที่ใหญ่และสวยงามกว่าเดิม

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (Mixed-Use) ภายใต้ชื่อ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่มีมูลค่า 46,000 ล้านบาท พร้อม Rooftop Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าใจกลางกรุงที่มีขนาด 11,200 ตารางเมตร

ข้อมูลเกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล :

ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 8 แบรนด์ (เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์, ดุสิตธานี, ดุสิต สวีท, ดุสิต คอลเลคชั่น, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย, และ อีลิธ ฮาเวนส์) ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 19 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหารและวิทยาลัยการโรงแรมในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีบริษัทเคเทอริ่งที่บริการอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit-international.com

ดาวน์โหลดรูปภาพโรงแรมได้ที่ Dusit Media Library