การจัดซื้อจัดหาอย่างรับผิดชอบ

การจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ

บริษัทจัดหาทรัพยากรด้วยการพิจารณาอย่างรอบคอบตั้งแต่การออกแบบ การคัดเลือก และการดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้นๆ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ

  • ลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง: เราให้คำมั่นที่จะลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวให้ได้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นและต่อสู้กับผลกระทบทรัพยากรแวดล้อมที่ทราบและที่อาจเกิดขึ้นจากมลพิษพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มลพิษพลาสติกในทะเล
  • ยกระดับการจัดหาอย่างรับผิดชอบ: เราขยายผลกระทบเชิงบวกด้วยการเพิ่มการใช้ผลิตผลจากเกษตรอินทรีย์ การคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ในห่วงโซ่อุปทาน และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพด้วย การไม่จัดหาจากสัตว์ชนิดพันธุ์ที่มีสภาวะเปราะบาง มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
  • จรรยาบรรณคู่ค้า: เราสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกันและการร่วมเป็นพันธมิตรกันตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ผ่านการดำเนินงานตามจรรยาบรรณคู่ค้า ซึ่งโดยมุ่งที่จะยกระดับผลกระทบเชิงบวกจากธุรกิจของเราต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การจัดหาจากท้องถิ่นและผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์

ตั้งแต่ปี 2564 ที่บริษัทริเริ่มด้วยการซื้อตรงจากเกษตรกรภายใต้เครือข่ายของโครงการสามพรานโมเดล และได้ค้นคว้าต่อเพื่อหาการทำเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย ความร่วมมือเพื่อสนับสนุนเกษตรกรจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในปี 2565 ดุสิตสามารถขยายผลเป็นกลุ่มโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ข้าวอินทรีย์ทั้งหมดในโรงแรมในเครือภายในประเทศ ทั้งส่วนที่ให้บริการกับลูกค้าและโรงอาหารของพนักงาน

ตลอดจนได้พยายามขยายผลไปยังผักและผลิตผลการเกษตรชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมให้โรงแรมซื้ออาหารทะเลจากชาวประมงพื้นบ้านเท่าที่จะสามารถทำได้อีกด้วย เมื่อคุณรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่โรงแรมในเครือดุสิตฯ คุณจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจให้แก่เกษตรกรและชุมชนในท้องถิ่น คุณสามารถลิ้มรสกาแฟท้องถิ่นที่โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส มูนไรส์ บีช รีสอร์ท ฟู้โกว๊ก หรือค็อกเทลสูตรใหม่และของว่างที่ทำจากส่วนผสมพื้นเมืองในหมู่เกาะมัลดีฟส์ ที่เชฟเรารังสรรค์มาให้คุณลองทุกวันในช่วง Happy Hour ที่โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ เป็นต้น

การคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ การปกป้องสัตว์ป่า

บริษัทได้ริเริ่มการใช้ไข่ไก่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงมาตั้งแต่ปี 2564 และตั้งใจที่จะขยายผลเพิ่มเติม การใช้ไข่ไก่นี้นอกจากจะช่วยให้แม่ไก่ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติและลดการใช้ยาปฏิชีวนะแล้ว ยังทำให้สามารถส่งมอบอาหารที่ปลอดภัยให้กับลูกค้าด้วย ในปี 2565 ได้ขยายผลการใช้ไข่ไก่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงไปยังโรงแรมในประเทศไทยที่บริษัทเป็นเจ้าของอีก จำนวน 6 แห่ง

การค้าสัตว์ป่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายทั่วโลกและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในแต่ละปีปัญหาระดับโลกที่เร่งด่วนนี้ ส่งผลให้สัตว์ที่เปราะบางสูญพันธุ์ ทำลายวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนชนบท ตลอดจนส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนอีกด้วย ในฐานะที่ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนลยึดมั่นหลักการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งเข้าร่วมเป็นสมาชิก World Travel and Tourism Council (WTTC) เราจึงมั่นใจว่าการดำเนินงานของเราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย รวมทั้ง เปลี่ยนการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์แบบเดิม (เช่น การขี่ช้าง) มาเป็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน (เช่น การเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และเรียนทำอาหารกับคนในท้องถิ่น)

ห้ามขายสัตว์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง

บริษัทได้ห้ามการขายสัตว์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงจำนวน 6 ชนิด ตั้งแต่ปี 2562 ได้แก่ ฉลามและหูฉลาม (จากทุกแหล่ง) เต่าทะเลและไข่เต่า (วงศ์ Cheloniidae และวงศ์ Dermochelyidae families จากทุกแหล่ง); ปลาหิมะ (Dissostichus eleginoides, จากทุกแหล่ง); ปลาบึก (Pangasianodon gigas, จากทุกแหล่ง); ปลาเก๋าแอตแลนติคยักษ์หรือปลาหมอทะเล (Epinephelus itajara, จากการจับจากธรรมชาติ) และปลาออเร้นจ์รัฟฟี่หรือปลาหัวเมือก (Hoplostethus atlanticus จากการจับจากธรรมชาติ) และในปี 2565 คณะกรรมการความยั่งยืนของกลุ่มดุสิตได้เห็นชอบการเพิ่มสัตว์อีก 2 ชนิดเข้าไว้ในรายการห้ามขาย ซึ่งได้แก่ Parrotfish (วงศ์ Scaridae จากทุกแหล่ง) and Napolean Wrasses (Cheilinus undulatus, จากทุกแหล่ง)

พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ในปี 2561 เรามุ่งมั่นที่จะกำจัดพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งในโรงแรมและรีสอร์ทภายในเครือดุสิตทั่วโลก เราเริ่มจากการหยุดใช้หลอด พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง จะถูกเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่ดีกว่า บริษัทกำหนดเกณฑ์ด้านความยั่งยืนซึ่งได้แก่ ชนิดวัสดุ และการหมุนเวียนได้ (Circularity) ในการพิจารณาร่วมกับเกณฑ์ด้านคุณภาพและเกณฑ์ด้านจัดซื้อและการส่งมอบ และเสาะหาทางเลือกที่มีในตลาด ในปี 2565 ได้ทยอยขยายผลการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักชนิดเติมไปยังโรงแรมในต่างประเทศ และจะได้ขยายผลเพิ่มเติมในปี 2566 สำหรับภาชนะบรรจุอาหาร คาวาอิ และดุสิตกูร์เม่ต์ ได้ใช้ทางเลือกที่ดีกว่าแล้ว ถัดไปในปี 2566 จะขยายผลไปที่ภาชนะบรรจุอาหารแบบนำกลับ (Takeaway) สำหรับโรงแรมในประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จะถูกพิจารณาในกระบวนการจัดหา ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับฉลากประหยัดพลังงาน และผลิตภัณฑ์กระดาษที่ได้รับฉลาก FSC (Forest Stewardship Council) เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษที่ผลิตจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่มีการบริหารจัดการอย่างรับผิดชอบ โดยได้ใช้กระดาษที่ได้รับฉลาก FSC นี้ในโรงแรมในประเทศไทย จำนวน 8 แห่ง วิทยาลัยดุสิตธานี (2 วิทยาเขต) บ้านดุสิตธานี ร้านอาหาร KAUAI (คา-วา-อิ) และดุสิตฮอสปิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส ซึ่งให้บริการที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม